+66 2256 4183, +66 2256 4462
prmdcu@gmail.com

MDCU

11 มี.ค. 2018

ไขความลับ! ทำอย่างไรคนไทยจะไม่ใหลตาย

จากการถอดรหัสพันธุกรรมในคนไทยกว่า 750 คน ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ และการจี้หัวใจด้วยคลื่นวิทยุ

94de4b9e5daa4e90a77697c897ab2b7c

 

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2561 : 11.00 น. : ห้องประชุมยาใจ ณ สงขลา อาคารหอพักและพัฒนาคณาจารย์ ชั้น 25 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ พล.อ.ท.นพ.กัมปนาท วีรกุล อดีตเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ ศ.นพ.กุลวี เนตรมณี อาจารย์พิเศษ ฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกันแถลงข่าว ไขความลับ … ทำอย่างไรคนไทยจะไม่ใหลตาย จากการถอดรหัสพันธุกรรมใน คนไทยกว่า 750 คน ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่และการจี้หัวใจด้วยคลื่นวิทยุ โดยมี ผศ.นพ.สมชาย ปรีชาวัฒน์ หัวหน้าอนุสาขาสรีระไฟฟ้าหัวใจ สาขาวิชาหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ และนายสมชาติ อาสา ผู้ร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการฯ ร่วมสัมภาษณ์พิเศษ

ใหลตาย หรือ sudden unexplained (unexpected) nocturnal death syndrome (SUND) ใช้เรียกการเสียชีวิตซึ่งเกิดขึ้นในขณะหลับ โดยมักมีอาการคล้ายหายใจไม่สะดวก อาจเกิดเสียงร้องคล้ายละเมอก่อนเสียชีวิต มักเกิดในผู้ชายวัยหนุ่มที่ปกติแข็งแรงดีก่อนเข้านอน และพบว่าเสียชีวิตในตอนเช้าวันถัดไป นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาในระดับชาติ เพราะเป็นโรคที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตกะทันหันโดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า ทำให้ยากในการป้องกันและรักษา

ศ.นพ.กุลวี เนตรมณี อาจารย์พิเศษ ฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ผู้บุกเบิกวิธีการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency ablation) ผ่านสายจี้บริเวณจุดที่มีปัญหา ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยี 3-Dimention electroanatomical mapping มาจำลองภาพ 3 มิติของหัวใจ เพื่อให้แพทย์มองเห็นการทำงานของกระแสไฟฟ้าหัวใจได้ชัดเจน และค้นหาตำแหน่งที่มีความผิดปกติได้อย่างแม่นยำ

การจี้หัวใจด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง ช่วยลดจำนวนครั้งของการเกิดหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้วได้ ในอดีตจะทำในผู้ป่วยที่เกิดการกระตุกของเครื่องช๊อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AICD) บ่อยครั้ง เนื่องจากมีหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้วบ่อยๆ เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและยืดอายุการทำงานของ AICD

วัตถุประสงค์การรักษาแนวทางนี้ มุ่งรักษาโรคให้หายขาด ต่างจากการใส่เครื่องกระตุกหัวใจที่ไม่ใช่ทางแก้ แต่เป็นการป้องกันการเสียชีวิตเท่านั้น วิธีการรักษาด้วยวิธีจี้หัวใจ นอกจากต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อให้ค้นหาตำแหน่งผิดปกติได้อย่างแม่นยำแล้ว ปัจจัยที่สำคัญยิ่งกว่า คือทักษะและความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา ซึ่งในเมืองไทยยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้จำนวนไม่มาก

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยสหสถาบัน 8 สถาบัน “ทำอย่างไรคนไทยจะไม่ใหลตาย” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผ่านทาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นแม่ข่ายเพื่อค้นหาสาเหตุทางพันธุกรรมของโรคใหลตาย โดยการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างรหัสพันธุกรรมของคนเป็นโรคใหลตาย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในภาคอีสานและเหนือ และคนที่ไม่เป็นโรค (สุขภาพแข็งแรง)

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ที่สามารถถอดรหัสพันธุกรรมทั้งหมดของมนุษย์ ประมาณ 3,000 ล้านเบส จึงนำมาใช้ในการถอดรหัสพันธุกรรมของการศึกษาในกลุ่มของผู้ป่วยโรคใหลตาย จำนวน 250 คน เปรียบเทียบกับรหัสพันธุกรรมของคนปกติ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันและเพศเดียวกัน จำนวน 500 คน เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่า Big Data ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ นับเป็น “ครั้งแรก” ในการศึกษา เมื่อทราบส่วนเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมแล้วจะสามารถโยงไปหาสาเหตุได้ โดยเฉพาะการทำงานและยีนที่เกี่ยวข้อง จะเป็นตัวบ่งบอกกลไกในการเกิดโรคได้ การศึกษาข้อมูลทางพันธุกรรมของคนไทยครั้งนี้ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงของประเทศ โดยเฉพาะรหัสพันธุกรรมของคนปกติที่มีร่างกายแข็งแรง สามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์เปรียบเทียบกับโรคอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมทั้งสามารถพยากรณ์หาโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงนับว่าการถอดรหัสพันธุกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นสมบัติของประเทศไทยที่มีประโยชน์และคุณค่าในอนาคต

X