จุฬาฯ เปิด “นวัตกรรมอวัยวะเทียมระดับโลก” ฝีมือคนไทย
วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564: 10.00 – 12.00 น.: ห้อง 111 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ผู้ช่วยอธิการบดี งานด้านสื่อสารองค์กร บริหารแบรนด์ และนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวต้อนรับ และกล่าวเปิดการเสวนาออนไลน์ ผ่านทาง Facebook Live CHULA the Impact ครั้งที่ 4 เรื่อง “นวัตกรรมอวัยวะเทียมระดับโลก ฝีมือคนไทย” โดยมี อ.นพ.ชินดนัย หงสประภาส อาจารย์ประจำภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมด้วย ผศ.ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ และ ผศ.ดร.เชษฐา พันธ์เครือบุตร อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโลหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเป็นวิทยากร และ อ.ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จีน อาจารย์ประจำภาควิชาเคมีและจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยกลุ่มภารกิจสังคมสัมพันธ์ ศูนย์สื่อสารองค์กร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดขึ้นเพื่อนำเสนอนวัตกรรมอวัยวะเทียมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผศ.ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ ผู้ร่วมพัฒนานวัตกรรมอวัยวะเทียมจากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ได้กล่าวถึงนวัตกรรม “เท้าเทียมไดนามิก” ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ทางภาควิชาได้พัฒนาขึ้น ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการทดลองทางคลินิก (clinical trial) ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นเท้าเทียมที่มีข้อเท้า ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าเท้าเทียมที่ผลิตจากไม้ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยได้นำเสนอตัวอย่างผลิตภัณฑ์ พร้อมกรณีศึกษาที่ได้ทดลองใช้แล้ว ซึ่งทางภาควิชา ตั้งใจจะผลิตเป็นเท้าเทียมไดนามิกแบบ premium เพื่อจำหน่ายภายใต้ start up ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ (CU Engineering Enterprise) รวมถึงการผลิตเพื่อนำไปใช้ในโครงการเท้าเทียมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทำร่วมกับ รพ.จุฬา และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ด้วย
ด้าน ผศ.ดร.เชษฐา พันธ์เครือบุตร ได้นำนวัตกรรม กะโหลก ใบหน้าและขากรรไกรเทียม ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3D Printing มานำเสนอ โดยเน้นไปที่กระบวนการการผลิตกระดูกเทียมที่มีความแข็งแรง ออกแบบด้วยความแม่นยำสูง เพื่อให้เข้ากับความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของคนไข้ ช่วยยกระดับนวัตกรรมทางการแพทย์ของไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้อย่างทัดเทียม ทั้งนี้ ผศ.ดร.เชษฐา กล่าวว่า ปัจจุบัน ได้มีการนำผลิตภัณฑ์อวัยวะเทียมจากบริษัท ไปใช้แล้วกว่า 100 ราย และได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก ปัจจุบัน Meticuly ได้มุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนานวัตกรรม และความเป็นไปได้อื่นๆ ในการใช้เทคโนโลยี 3D Printing เพื่อการผลิตกระดูกเทียมในอนาคต
อ.นพ.ชินดนัย หงสประภาส ได้กล่าวถึงปัญหาและความจำเป็นของการใช้นวัตกรรมกระดูกเทียมในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูก ซึ่งปัจจุบันทางคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ก็ได้มีการนำนวัตกรรมเหล่านี้มาใช้ในการรักษาผู้ป่วยด้วย
“นวัตกรรมชิ้นส่วนทดแทนกระดูก มีประโยชน์อย่างมากในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูก ปกติแล้วการรักษาผู้ป่วยโรคดังกล่าวจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดเป็นหลัก โดยต้องผ่าตัดกระดูกบริเวณที่เป็นมะเร็งออกไปและต้องหาวัสดุมาทดแทนที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ วัสดุที่ได้รับการยอมรับกันคือการใช้ข้อโลหะเทียมชนิดพิเศษซึ่งสามารถทำให้ผู้ป่วยใช้งานแขนหรือขาได้ทันที แต่วัสดุดังกล่าวต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาที่สูงมาก รวมถึงไม่สามารถเบิกจ่ายจากสิทธิ์การรักษาได้ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาวิธีนี้ นวัตกรรมชิ้นส่วนทดแทนกระดูกที่ทางภาควิชาวิศวกรรมโลหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้น จึงเป็นทางเลือกที่ดีมาก ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงวัสดุทดแทนกระดูกที่มีคุณภาพ ในราคาที่สมเหตุผล”
อ.นพ.ชินดนัย ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีแพทย์ศัลยกรรมหลากหลายสาขาจากหลายสถาบันได้นำนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้เป็นจำนวนมาก ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกเพียงอย่างเดียว อาทิเช่น สามารถใช้รักษาผู้ป่วยกระดูกหัก ผู้ป่วยโรคทางระบบหูคอจมูก รวมถึงผู้ป่วยศัลยกรรมตกแต่งที่ต้องใช้วัสดุทดแทนกระดูกบริเวณใบหน้าอีกด้วย โดยทางภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำนวัตกรรมนี้ไปใช้ในผู้ป่วยจำนวนกว่า 10 ราย และได้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
กลับไปหน้าข่าวประชาสัมพันธ์