แถลงข่าว เครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง Chula High Flow Nasal Cannula สุดยอดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพจากฝีมือคนไทย
วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2564: 10.30 น.: ห้องประชุม 1210 ชั้น 12 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) รศ.นพ.ทายาท ดีสุดจิต กุมารแพทย์ประสาทวิทยา ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย รศ.พญ.นฤชา จิรกาลวสาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด หน่วยโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ นายชัยสิทธิ์ ธรรมพีร กรรมการ บริษัท อินทรอนิคส์ จำกัด ผู้พัฒนานวัตกรรมชุดอุปกรณ์ควบคุมการทำงานเครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง ร่วมกันแถลงข่าว เครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง Chula High Flow Nasal Cannula สุดยอดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพจากฝีมือคนไทย พร้อมทั้ง ร่วมพูดคุยถึงแนวทางความร่วมมือสนับสนุนนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และแนะนำสาธิตการใช้งานเครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง ที่พร้อมส่งต่อสู่กลุ่มโรงพยาบาลให้เป็นของขวัญด้านสุขภาพเพื่อคนไทย
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และ บริษัท อินทรอนิคส์ จำกัด ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ เครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง (High Flow Nasal Cannula – Chula HFNC) เพื่อใช้รักษาช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคโควิด – 19 และผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ นับว่าเป็นเครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง “เครื่องแรกที่ผลิตได้โดยคนไทย” และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถลดการนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ของประเทศไทย รวมทั้งได้เริ่มส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ แล้วกว่า 500 เครื่อง พร้อมเตรียมแผนขยายสู่สถานพยาบาลที่มีความพร้อมต่อไป
รศ.นพ.ทายาท ดีสุดจิต กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการคิดค้นและผลิตเครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง (High Flow Nasal Cannula – Chula HFNC) คือ หลังการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 พบว่าโรงพยาบาลต่างๆ อาจเข้าสู่วิกฤตใหญ่เนื่องจากมีเครื่องช่วยชีวิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งการผลิตเครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูงนี้ เป็นความร่วมมือจาก 7 องค์กร ได้แก่ สภากาชาดไทย องค์การอาหารและยา (อย.) สถาบันมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (มอก.) สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สาขาวิชาโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการพัฒนาเครื่องนี้ได้คำนึงถึงความฉุกเฉินและวิกฤตที่เกิดขึ้นในระบบสาธารณสุขเป็นประเด็นสำคัญ รวมถึงความเหมาะสมต่อการใช้งานตามสถานการณ์จริงในปัจจุบัน โดยทางทีมผู้ประดิษฐ์ได้มีการศึกษาโครงสร้างของเครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง เริ่มจากการจัดหาชิ้นส่วนที่เหมาะสมเพื่อนำมาทดแทนชิ้นส่วนที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จากนั้นจึงเริ่มสร้างตัวทดสอบพื้นฐานขึ้น เมื่อพัฒนาจนสามารถใช้งานเครื่องได้จริง จึงขออนุญาตใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเครื่องมือแพทย์มาตรา 27 วรรค 1 ซึ่งเป็นการสร้างเครื่องมือขึ้นมาใช้และกระจายชิ้นส่วนการใช้งานได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และได้ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานอย่างถูกต้อง
รศ.พญ.นฤชา จิรกาลวสาน กล่าวว่า จากสถิติพบว่ามีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีอาการปอดอักเสบรุนแรงมากกว่าร้อยละ 15 ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งหมด ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูงที่มีอัตราการไหลสูงกว่า อยู่ที่ 40 – 60 ลิตรต่อนาที โดยพบว่าสามารถลดอัตราการเสียชีวิตและอัตราการใส่ท่อช่วยหายใจลงได้ ทำให้อาการเหนื่อยลดลง ซึ่งหลังจากที่ได้ผลิตเครื่องต้นแบบ ได้นำเครื่องต้นแบบมาทดสอบในอาสาสมัครปกติทั้งหมด 5 คน และผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการปอดอักเสบที่รักษาตัวในห้อง ICU ทั้งหมด 10 คน ซึ่งผลการรักษาพบว่าได้ผลดีมาก ไม่แตกต่างกับเครื่องมาตรฐานที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนชาวไทยและองค์กรต่างๆ ที่ร่วมบริจาคผ่านมูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ รวมทั้ง NIA ที่ได้ให้เงินสนับสนุนเพิ่มเติม ทำให้เราสามารถแจกจ่ายเครื่อง Chula HFNC ไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งนับเป็นการส่งต่อการให้ที่ยิ่งใหญ่ของวงการสาธารณสุขไทยท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเช่นในปัจจุบัน
ทางด้าน ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ กล่าวเสริมว่า เครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูง เป็นนวัตกรรมที่สามารถผลิตและใช้งานได้ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินร่วมกับการควบคุมจากบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญเป็นรายแรก จากการร่วมมือกันในครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการสนันสนุนเงินทุนให้คนไทยได้ใช้องค์ความรู้ที่มีมาสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยเหลือสังคมและเป็นส่วนที่จะทำให้ชีวิตความป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น
ในขณะที่ นายชัยสิทธิ์ ธรรมพีร อธิบายการทำงานของเครื่องนี้ว่า ระบบการทำงานของเครื่องประเภทนี้มักจะอยู่ในกลุ่มของเครื่องที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาค่อนข้างสูง บริษัทจึงได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาเป็นต้นแบบในการผลิตและมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงจากเครื่องที่ต้องนำเข้า นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ สามารถควบคุมอุณภูมิความชื้นอยู่ในระดับที่ดี เพราะคนไข้ที่ป่วยจากระบบทางเดินหายใจจะทำให้ออกซิเจนนั้นเข้าปอดไม่เพียงพอ จึงต้องใช้เครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูงวิ่งเข้าปอดเร็ว ซึ่งการเข้าไปนั้นจำเป็นต้องมีความชื้นที่เหมาะสม ถ้าควบคุมความชื้นไม่ดี อาจทำให้คนไข้ติดเชื้อมีความชื้นในปอดได้ ถือเป็นจุดย้ำแรกที่ต้องระวังและทำให้ดี ซึ่งนวัตกรรมนี้สามารถทำได้ และแผนในอนาคตจะพัฒนาให้แพทย์สามารถสั่งการระบบการทำงานของเครื่องผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์จากที่ต่างๆ ลดการพบปะป้องกันการแพร่เชื้อ และสามารถเลือกได้ว่าควรใช้โปรแกรมไหนให้มีความเหมาะสมกับคนไข้ในเวลานั้น
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อใดที่ “สังคมมีปัญหา จุฬาฯ มีคำตอบ” การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากก่อให้เกิดความยั่งยืนในการยกระดับชีวิตของคนในประเทศ พร้อมเสริมว่า นวัตกรรมเป็นสิ่งที่สามารถนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ และมีคุณค่ามากขึ้นเมื่อนวัตกรรมนั้นๆ ได้ถูกนำมาใช้งานจริง พร้อมทั้ง ขอขอบคุณในการร่วมใจของทุกคนที่มีส่วนสนับสนุนให้สามารถผลิตเครื่องช่วยหายใจอัตราไหลสูงและนำช่วยชีวิตผู้ป่วยได้สำเร็จ
และสามารถรับชมคลิปวิดีโองานแถลงข่าวย้อนหลังได้ที่ https://fb.watch/9ZrhfANsoG/
กลับไปหน้าข่าวประชาสัมพันธ์